Thursday, 2 January 2025

โอ๊ยเล่าเรื่อง : เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม

[ad_1]

วันเสาร์ ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.

THE HUNGER GAMES : THE BALLAD OF SONGBIRDS & SNAKES ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ห้าของแฟรนไชส์ THE HUNGER GAMES กำกับโดย ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ ที่กลับมาคุมบังเหียนอีกครั้ง หลังจากที่เคยกำกับใน The Hunger Games : Catching Fire และ The Hunger Games : Mockingjay- Part 1 and 2

ร่วมมุ่งหน้าสู่การแข่งขัน “เกมล่าชีวิต ครั้งที่ 10” เมื่อ“คอริโอเลนัส สโนว์” ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลที่ล่มสลายจากสงครามในแคปปิตอล เขาได้รับมอบหมายให้เป็นพี่เลี้ยงของ“ลูซี เกรย์ แบร์ด” เครื่องบรรณาการจากเขต 12 ท่ามกลางความเป็นความตาย ทั้งสองต้องสู้สุดเกมเพื่อต้านอำนาจจากเบื้องบน และพิสูจน์ให้ชาวพาเน็มรู้ว่า “ใครคือศัตรูที่แท้จริง ใครคืออสรพิษที่ซ่อนอยู่ในเกมนี้”

เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม เล่าเรื่องสนุกชวนติดตาม เล่าเรื่องแบบมีลูกเล่น มีชั้นเชิง กระชับฉับไว มีช่วงยืดๆน่าเบื่อน้อยมาก ประเด็นต่างๆ ของ The Hunger Game มาครบทั้งการเมือง ปรัชญา จิตวิทยา การเจาะลึกเข้าไปสู่จิตใจคนการเอาตัวรอด มิตรภาพ การโฆษณาชวนชื่อ มีการโยงสิ่งละอันพันละน้อยที่เราเจอ มาจากภาคก่อนๆ เข้ามา ขยายความ ที่มาที่ไปได้อย่างน่าสนใจ

ตัวหนังแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท 3 ตอน บทที่ 1 พี่เลี้ยงเมนเทอร์ปูตัวละครหลัก คอริโอเลนัส สโนว์  กับ  ลูซี เกรย์ แบร์ดเน้นๆ ไปที่ฝ่ายแคปปิตอล ที่ตัวหนังทำได้ดี รู้จักตัวละคร กับฝ่ายกบฏ บทที่ 2 วันชิงชัยสนุกตื่นเต้นไปกับการเข้าสู่ เกมล่าชีวิต คอยลุ้นตามดูพระเอกในการช่วยเหลือนางเอกให้รอดในเกมได้นานที่สุดบทที่สาม ผู้พิทักษ์สันติภาพบทสรุป ส่งท้ายจุดหักเห ความรักความสัมพันธ์ของสโนว์ กับ ลูซี่ เกี่ยวกับโยงกับ เขต 12 หลายช่วงทำได้ดี แต่ก็ยังรู้สึก เหตุผลต่างๆ มันดูง่ายไป ยังไม่สามารถ ทำให้เราเชื่อในการกระทำได้ (ในบทที่ 3 นี้ ดูไปๆ ชวนให้นึกถึงสโนว์ในเรื่องนี้ ไม่ต่างอะไรกับ อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ ในสตาร์วอร์สที่ถูกด้านมืดครอบงำ)

ทอม บลายธ์ ในบท คอริโอเลนัส สโนว์ เล่นดี หล่อ มีเสน่ห์ มีพัฒนาการตามบทที่ค่อยโตขึ้นเรื่อยๆ

เรเชล เซกเลอร์ โดดเด่น มีเสน่ห์มากกับบท ลูซี เกรย์ แบร์ดการแสดงดูลื่นไหล ไม่หมด ดูเด่น ไม่แพ้ ภาคก่อนๆ ที่ เจนนิเฟอร์ ลอเลนซ์ เคยทำเอาไว้เป็นภาพจำของหนังชุดนี้  

นอกจากนี้ ยังได้พลังการแสดงของ ไวโอลา เดวิส ในบท ดร.โวลัมเนีย กอล เกมเมกเกอร์ที่อำมหิตที่สุดในประวัติศาสตร์ปีเตอร์ ดิงเคลจ ในบท คาสกา ไฮบอตทอม ผู้ให้กำเนิดเกมล่าเกมเพื่อนรักของพ่อสโนว์ ที่ดูจะไม่ขอบขี้หน้าหลานชายนัก

เจสัน ชวาร์ตซ์แมน รับบท ลูเครเทียส “ลักกี้” ฟลิกเกอร์แมนบรรพบุรุษของ ซีซาร์ ฟลิกเกอร์แมน พิธีกร เกมส์ในทุกๆ ปีฮันเตอร์ เชเฟอร์ รับบท ไทกริส ญาติของสโนว์ ตัวละครนี้เคยโผล่มาใน The Hunger Games : Mockingjay-Part 2 

ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ กลับมากำกับภาคนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวหนังดูเพลินไปกับตัวเรื่อง ดราม่าเข้มข้น แอ๊กชั่นกำลังดี เรื่องราวความรักความขัดแย้งของพระ-นาง มิตรภาพของเพื่อน การทรยศหักหลัง การเอาตัวรอด ซีจีอลังการงานสร้าง ภาพที่สวยงาม การตัดต่อที่ทำให้หนังดูกระชับ เคมีนักแสดงเข้ากันและที่ชอบมากๆ โดนใจสุดๆ คือเพลงคันทรีทุกๆ เพลงของ ลูซี่ ไพเราะมาก ฟังแล้วละลายทุกเพลง เพลิดเพลินมากๆ 153 นาที ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ไม่เคยชอบหนังชุดมาก่อนเลยสักภาค แต่ภาคนี้ได้ใจไปเต็มๆ 9/10 คะแนนครับ

 

[ad_2]

Source link