[ad_1]
ผ่านไปแล้วสำหรับการประกวด Miss Universe 2023 ซึ่งสาวงามจากประเทศนิการากัว “เชย์นิส อาลอนโด ปาลาซิออส กอร์เนโฆส”คว้ามงกุฎไปครอง ขณะที่ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” สาวงามจากไทย ได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 เรียกว่าเข้าใกล้มงที่สุดในรอบกว่า 50 ปี ส่วนสาวงามจาก ออสเตรเลีย ได้รองอันดับ 2 ซึ่งการประกวดครั้งนี้ก็มีดราม่าตามมา อย่างเรื่องการใช้ล่ามของนางงามนิการากัว ที่ถูกมองว่าเป็นเทคนิคในการดึงเวลาเพื่อให้มีเวลาไตร่ตรองการตอบคำถามได้มากขึ้น
ประเด็นนี้ได้พูดคุยในรายการเปิดโต๊ะข่าว โดยมีคุณออฟฟี่ – ปัญญาพล จันทร์สุคนธ์ ทีมข่าวบันเทิงพีพีทีวี ผู้ติดตามเวทีนางงาม มาร่วมวิเคราะห์และตั้งข้อสังเกตดราม่าหลายๆเรื่องบนเวทีด้วย โดยเฉพาะการตอบคำถามของสาวงามนิการากัว ที่มีทั้งเรื่องการตอบคำถามในรอบสุดท้าย ที่ถามว่าหากเลือกเป็นผู้หญิงใครก็ได้ 1 คน 1 ปี อยากจะเป็นใคร ซึ่ง “เชย์นิส”ตอบว่า เลือกเป็นแมรี วอลล์สโตนคราฟต์ เพราะช่วยลดช่องว่างทางสังคมและให้โอกาสผู้หญิงหลายคน
รวมคำตอบมงลง “มิสนิการากัว” คว้ามงกุฎ Miss Universe 2023
เปิดประวัติคนมง “เชย์นิส ปาลาซิออส” ชาวนิการากัวคนแรกที่คว้ามงกุฎ Miss Universe
ซึ่ง แมรี วอลล์สโตนคราฟต์ นั้น เป็นนักเขียนและนักสิทธิสตรีชาวอังกฤษที่มีชีวิตอยู่ช่วงปี 1759-1797 หรือกว่า 200 ปีมาแล้ว แต่ “เชย์นิส” ตอบ พ.ศ.ผิด และยังมีประเด็นเรื่องการใช้ล่าม คล้ายเป็นเทคนิคถ่วงเวลาคิดเพื่อตอบคำถาม ซึ่งใช้เวลานานกว่าคนอื่น
ด้านครูเจน- เจนรบ ชัยเลิศ เจ้าของเพจ “พูดได้ไหมพี่จี้” ได้วิเคราะห์ถึงการประกวดสาวงามที่จะครองมงกุฎ Miss Universe ว่า เป็นการให้คะแนนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ไม่ใช่แค่การตอบคำถาม หรือเดินบนเวที แต่มีองค์ประกอบอื่นๆหลายอย่าง
รวมถึงองค์ประกอบเรื่องการทำธุรกิจ ซึ่งหากสังเกตจะเห็นว่า ประเทศเจ้าภาพทั้งปีก่อนและปีนี้เป็นประเทศกลุ่มละติน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ของเวที จะเห็นได้จากการที่นางงามจากนิการากัว เลือกใช้ภาษาเสปนในการตอบคำถามและใช้ล่ามแทน จนสร้างเสียงเฮให้กับผู้ที่เข้าชมนางงาม ซึ่งการที่เลือกนิการากัว แม้ไม่ใช่ประเทศใหญ่ แต่ก็เป็นประเทศที่เป็นที่รู้จักในกลุ่มละติน หากนางงามเดินสายทำภารกิจ โดยเฉพาะประเทศแม็กซิโก เจ้าภาพในปีหน้าก็จะทำให้ภารกิจเป็นไปอย่างราบรื่น
[ad_2]
Source link