[ad_1]
“เศรษฐา” เผยถก “มท.-ตร.-กทม.” จัดโซนเปิดสถานบันเทิงตี 4 ดีเดย์เริ่ม 15 ธ.ค. หวังกระตุ้นศก.สั่งตำรวจเข้มงวดปราบยาเสพติด วางแผนรับมือปัญหาอาชญากรรมตามมา พร้อมทำความเข้าใจประชาชน ยันกลางวงประชุม “คิดดีแล้ว”
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 พ.ย. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. แถลงข่าวร่วมกัน โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุม 2 เรื่อง เรื่องแรก ประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกระทรวงมหาดไทย เรื่องการแก้ไขหนี้สินของประชาชน โดยสิ้นเดือนพ.ย.จะมีการแถลงข่าวใหญ่ เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับหนี้นอกระบบ
นอกจากนี้ยังมีการประชุม เรื่องการขยายเวลา เปิดสถานบริการถึงตี 4 โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อดูความเหมาะสม จะเป็นตรงไหนอย่างไร รวมถึงผู้ว่าฯ 4 จังหวัด กทม.ชลบุรี เชียงใหม่และภูเก็ต เข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นจังหวัดหลักที่ให้เปิดบริการถึง ตี 4 ตรงไหนที่สามารถทำได้ก็ทำก่อน ส่วนจะมีการเปิดเป็นโซนนิ่งหรือไม่ในอนาคต ค่อยว่ากันทีหลัง ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำที่ทำเรื่องนี้เพื่อต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว ไม่ใช่เฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเดียว ถ้าเราสามารถเปิดระยะเวลาได้ยาวขึ้น พี่น้องประชาชนที่ทำการค้าขาย เกี่ยวกับการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือสถานบริการอย่างอื่น สามารถเปิดบริการได้มากยิ่งขึ้น ตรงนี้มีนัยสำคัญหลายๆ นัย เช่น นักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ เขาไม่ได้ทานข้าวเร็วเหมือนเรา บางคนทานข้าวตั้งแต่ 3-4 ทุ่ม ก็มี หากสถานบริการปิดเที่ยงคืนหรือตี 2 เขาก็ต้องมาเร่งเพื่อกินข้าวให้เสร็จเร็ว จำนวนอาหารที่จะสั่งก็จะน้อยลง เราไม่ได้เน้นแค่เปิดสถานบริการขายสุราอย่างเดียว เพราะถ้าระยะเวลาน้อยการใช้จ่ายเงินก็น้อยลงไป ก็เป็นเรื่องการขยายระยะเวลา
นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับกระทรวงมหาดไทยจะดูในเรื่องของการทำโซนนิ่ง ใบอนุญาตต่างๆ ที่จะทยอยตามมา แต่เดตไลน์ที่เราวางไว้ เป็นวันที่ 15 ธ.ค. 66 ส่วนเรื่อง อื่นๆ ที่จะตามมา ได้สั่งการสำนักงานตำรวจฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลประชาชน การทำความเข้าใจกับนโยบายนี้ เรื่องที่อาจจะมีเสียงรบกวน เรื่องการเมาไม่ขับ ตรงนี้ตนได้เน้นย้ำไปและให้ติดกล้อง CCTV ให้มากขึ้น การที่เอาเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ให้บริการเรื่องเมาไม่ขับ จะมาช่วยเหลือตรงนี้ด้วยเหมือนกัน
เมื่อถามว่า ได้มีการกำชับเรื่องปัญหายาเสพติดด้วยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจค้นอย่างเข้มข้นต่อไป สำหรับระยะเวลาในการเปิด วางไว้ถึงตี 4 ซึ่งแล้วแต่เขต และพื้นที่ด้วย ต้องเป็นไปตามกฎหมายด้วย ทั้งนี้การเปิดถึงตี 4 เบื้องต้นน่าจะให้เป็นชั่วคราวก่อน เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนโซนนิ่ง และการปรับเปลี่ยนกฎหมายอะไรหลายๆ อย่าง ส่วนของกทม.จะเป็นจัดโซนแน่นอน ไม่ใช่ทั้งหมด การดำเนินการก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และทางสำนักงานตำรวจฯ ก็มีความมั่นใจว่าถ้าเป็นนโยบายของรัฐบาล กำลังพลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะสามารถบริหารจัดการได้
นายกฯ กล่าวด้วยว่าสำหรับการเปิดบริการถึงตี 4 ยังไม่มีการคำนวณจำนวนเม็ดเงินที่จะเข้ามาว่าจะได้เท่าไร
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงต้นของการประชุมหารือแผนบูรณาการการท่องเที่ยว เรื่องการเปิดสถานบันเทิง ถึง 04.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการคลัง กล่าวย้ำ นโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว ว่า เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และ กระทรวงมหาดไทย ล้วนมีส่วนผลักดัน และเราให้ความสำคัญมาโดยตลอด เห็นได้จากนโยบายด้านการท่องเที่ยว แทบจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์เว้นสัปดาห์
“เรื่องของการเปิดสถานบริการ ถึงตี 4 นี้ ยืนยันว่า เราก็คิดกันมาดีแล้ว เราได้พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงด้วย และ เห็นว่าเป็นประเด็นที่ ความจริงแล้วมันก็มีการกระทำกันอยู่ ลักลอบกันทำอยู่บ้างแล้ว เราก็ทำให้มันถูกต้องตามกฎหมายก็แล้วกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องดูเรื่องโซนนิ่ง ว่าเขตไหนเหมาะสมที่จะทำหรือไม่ ทำอย่างไร” นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนเรื่องผลดีของนโยบายดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ต้องพูดกันอยู่แล้ว เพราะเรื่องการเสริมสร้างรายได้ให้กับประชาชน กระตุ้นการท่องเที่ยว แต่เรื่องผลกระทบที่จะตามมา เรื่องของปัญหาอาชญากรรมหรือความไม่สบายใจของเพื่อนบ้าน เรื่องเมาไม่ขับ หรือปัญหายาเสพติดที่จะตามมาเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ก็ขอให้พวกเราดูกันให้ครบ ทั้งหมดในทุกเรื่อง
[ad_2]
Source link